♥ การเตรียมปลาเข็มก่อนขึ้นเครื่อง <ครั้งแรกในชีวิต> ♥

สวัสดีครับ

สุด สัปดาห์นี้ บ้านเราจะมีแผนการเดินทางไปท่องเที่ยวที่เชียงใหม่ กัน 4วัน ตั้งใจว่าจะพาเด็กๆ ไปดูอุโมงค์ปลา แวะหาหลินปิง กับไปขี่ช้างครับ ผมเชื่อว่าการเดินทางตั้งแต่เล็กๆ ของเขาจะใ้ห้ประสบการณ์เสริมจากการเรียนรู้ในห้องเรียน ซึ่งผมก็เคยได้รับในวัยเด็กที่คุณปู่ของปลาเข็มมักจะพาผมไปเที่ยวตามที่ ต่างๆ อยู่บ่อยๆ



ผม ยังจำได้สมัยผมเป็นเด็ก บ้านเราเดินทางบ่อย คุณพ่อคุณแม่ผมซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการร้านตัดเสื้อผ้าในยุคนั้น มักจะรวบรวมสมัครพรรคพวกจัดผ้าป่าไปทอดตามวัดและโรงเรียนที่ต่างๆ ในประเทศไทย จึงทำให้ผมได้มีโอกาสประสบการณ์เดินทางและเมารถควบคู่ไปด้วย

ใน ยุคนั้นการเดินทางไปไหนมาไหนยังค่อนไปทางลำบาก ถนนหนทางมีขนาดเล็ก และคณะเรามักเดินทางโดยรถบัสลมโกรก (ไม่แอร์) เป็นส่วนใหญ่ ห้องน้ำห้องท่าระหว่างทางไม่สะดวกหรือมีมากมายเหมือนเช่นเดี๋ยวนี้ การไปเชียงใหม่ในครั้งแรกของผมจึงเป็นความตื่นเต้นและเป็นความทรงจำที่ผมจด จำรายละเอียดได้ดีเสมอ บางเรื่องคุยกันท่านก็ลืมไปแล้ว ผมเล่าให้ท่านฟังว่าผมยังจำได้ว่าตอนขาไปรถบัสเราเพลาขาดตอนขึ้นเขา และชาวบ้านบนเขาแถวๆ นั้นก็ใจดีมากๆ เขาไปตามกันทำกับข้าวมาเลี้ยงพวกเราทั้งคณะ หรือมีอยู่จังหวัดหนึ่งตอนขาไป ผมปวดฉี่ พ่อต้องขอให้คนขับหยุดรถ แล้วให้ผมลงไปฉี่ข้างถนนกลางป่า แต่รถดันคิดว่าเราขึ้นรถแล้ว ก็เลยขับรถออกไป ทิ้งเราพ่อลูกให้วิ่งตามรถ และแน่นอนผมต้องมีภาพถ่ายคู่กับพระบรมธาตุดอยสุเทพด้วยเหมือนเด็กๆ ทุกคน ^^
ความ ที่ผมกับแม่ปลามีนิสัยรักการท่องเที่ยวเป็นพื้นฐานเดียวกัน เราจึงมักดูตารางว่างของกันและกัน และชวนกันไปโน้นนี้นั้นอยู่ตลอด และคราวนี้ก็เช่นกัน แต่ประสบการณ์ครั้งนี้อาจแตกต่างจากประสบการณ์ในวัยเด็กที่ผมได้รับอยู่มาก โข คือ เราเพิ่มประสบการณ์การขึ้นเครื่องบินให้กับเขาด้วย
ตอนผมเป็นเด็กๆ ผมจะดีใจทุกครั้งที่ได้เห็นเครื่องบิน และครั้งแรกในการขึ้นเครื่องบินของผมคงไม่เหมือนกับคนอื่นๆ เขา เพราะผมได้ขึ้นเครื่องบินวันเด็ก! ไม่ใช่เครื่องบินที่จอดเฉยๆ อยู่ที่กองทัพอากาศนะครับ ถ้าอันนั้นผมปีนมาตั้งแต่อยู่ ป.1 แล้ว ผมได้รับเลือกจากเด็กๆ ที่ไปวันเด็กแต่เช้าๆ แล้วได้ขึ้น บี๕๒ ของกองทัพอากาศบินรอบกรุงเทพ อยู่แป๊บนึง แป๊บนั้นเป็นประสบการณ์ไม่รู้ลืมของชีวิตน้อยๆ ของผม กว่าจะได้เคยขึ้นเครื่องบินพาณิชย์จริงๆ ก็ตอนบริษัทส่งไปทำงานตามต่างจังหวัดและยังจำความรู้สึกเด๋อๆ ด๋าๆ ครั้งแรกได้เสมอ แอบนึกถึงทีไร ก็ยิ้มให้กับตัวเองทุกทีไป
ขออภัยครับ อ้อมเรื่องที่จะเล่าไปซะ กว่า ๒๐ปี กลับมาที่การเตรียมตัวลูกสาวปลาเข็มดีกว่า จริงๆแล้วผมต้องขอขอบคุณครอบครัวของพี่ท่านหนึ่งที่ผมเคยบินด้วย เขาพาลูกชายขณะนั้นอายุขนาดปลาเข็มขึ้นเครื่องบินครั้งแรก และผมหันไปเห็นภาพประทับใจ ... เจ้าตัวเล็กคนนี้กำลังบีบจมูกแล้วหายใจให้ลมออกหู เหมือนแบบที่ผมทำบ่อยๆ เวลาหูอื้อ ผมจำไว้เลยว่า ถ้าผมมีลูกผมจะทำตาม และครั้งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของผมกับแม่ปลาด้วยที่ได้เดินทางพร้อม ลูกปลาทั้งสองตัว จึงต้องจัดหนักกันหน่อย
.
.
.
แว๊บนึงในขณะป้อนข้าวเข็ม สัปดาห์ก่อน ผมถามเข็มว่า

ป่าปี๊ : "ปลาเข็ม ลูก! ... ป่าปี๊จะพาเข็มกับน้องทูไปนั่งเรือบินขึ้นไปอยู่บนฟ้าสูงหญ่ายยยยย เลย ^^ อยากไปไหมลูก ?!?"

ปลาเข็ม : <ทำหน้าจะร้องไห้ >" ม่ายอ้าวววววว T.T ม่ายไป อาาาาาาา แง้้้ๆๆๆๆ " Y.Y

ผมงงเลย เลยถามเขาว่า "ทำไมอะลูก ไม่อยากขึ้นไปอยู่บนฟ้าสูงๆ ได้เห็นบ้านเราเล็กๆ เหรอ "

ปลาเข็มตอบแบบงอนๆ ว่า "ม่ายเอ๊า!! ป่าปี๊.. เดี๋ยว..เข็มกับน้องทูตกลงมา!!!! T.T"
ป่าปี๊ :



พอ รับทราบความคิดในใจเขาแล้วเราจึงต้องมาเตรียมการกันหลายขนาน เพื่อให้ปลาเข็มไม่กลัวเครื่องบิน เราจึงเริ่มจากการไปรื้อเครื่องบินเด็กเล่นมาเล่นให้เห็นผ่านหูผ่านตากัน ก่อน และแอบพูดถึงเครื่องบินในทุกๆ โอกาสที่จะสามารถสื่อสารกันได้ ซึ่งพบว่าแรกๆ ยังมีการต่อต้านอยู่บ้าง แล้วบังเอิญมีอยู่วันหนึ่งในปลายสัปดาห์ที่แล้ว ผมกำลังเอาปลาเข็มเข้านอนตามปกติ คุณแม่เขาจะพาปลาทูเข้านอน <ทำงานกันเป็นทีม>

ปกติปลาเข็มมักจะขอให้ผมเล่านิทานให้เขาฟังก่อนนอนเสมอ เลยทำให้ผมปิ๋งไอเดีย
ขึ้น มาทันที และตั้งใจที่จะสอดแทรกเรื่องเครื่องบิน สนามบิน และการเตรียมตัวขึ้นเครื่องบินผ่านการเล่านิทานน่าจะถูกจริตกับเข็ม ท่านที่เคยติดตามอ่านบล็อก ถ้ายังจำได้ผมกับแม่ปลาจะใช้นิทานเป็นสื่อในการปูพื้นฐานจิตใจปรับนิสัยให้ กับปลาเข็มตลอดครับ ไม่ว่าจะตอนที่เขาดื้อ หรือชอบแย่งของจากมือ ซึ่งวิธีนี้รอดำเนินการกับเจ้าปลาทูด้วยแน่นอน ท่านที่สนใจอาจลองอ่านจากลิงค์ที่ผมแนบมานี้ได้อีกนะครับ
http://cafedelarny.blogspot.com/2010/08/blog-post.html




ผม ลองนำนิทานที่ผมมาเล่าย่อๆ ให้อ่านเล่นนะครับ เผื่อปลาเข็มโตขึ้นจะกลับมาแซวป่าปี๊ม่ามี๊ว่าวางแผนให้เขาเยอะขนาดนี้เลย เหรอ ลองอ่านดูครับ

"...... กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีบ้านหลังหนึ่งอยู่ไกลออกไปในป่า บ้านนี้มีป่าปี๊ มีม่ามี๊ มีน้องตัวเล็กๆ และมีพี่สาวใจดี ป่าปี๊ม่ามี๊ของบ้านนี้ใจดีมากๆ กำลังจะพาลูกๆ ของเขาไปนั่งเครื่องบินที่สนามบินใหญ่ใจดี (อะไรที่ลงว่า "ใจดี" จะถือเป็นมิตรกับเข็มครับ)และการเดินทางไปสนามบินอันใหญ่(กางมือสองมือกว้างๆเป็นรีวิวประกอบ) จะสนุกมากๆเลยลูก เราจะได้ช่วยกันลากกระเป๋ากัน ป่าปี๊หนึ่งใบ ม่ามี๊หนึ่งใบ (พี่เข็มก็จะเสริมเองว่า "หนูจะลากกระเป๋าสีชมพูของเล่นของหนูด้วยนะป่าปี๊") แล้วป่าปี๊ก็จะมีตั๋ววิเศษ และถ้าเข็มเป็นเป็นเด็กดี เข็มก็จะได้ตั๋ววิเศษนี้ด้วย เข็มเป็นเด็กดีหรือปล่าวลูก???? (ปลาเข็มรีบตอบ หนูก็เป็นเด็กดีนะป่าปี๊")
แล้วพอเราเข้าไปที่ห้องรอนะ จะมีช็อกโกแลท มีขนม มีน้ำส้ม เยอะแยะเต็มไปหมดเลยลูก (เล่าเสียงสูงเลย ..ตอนนี้) และคุณน้าในนั้นเขาก็จะยอมให้พี่สาวใจดี กินขนมได้ทุกอย่างเลย ^^ (ปลาเข็ม โหดีใจ ตามไปด้วย แล้วพูดว่า "หนูจะได้กินขนมเยอะแยะเลยเหรอ ป่าปี๊")

(หักมุมเข้าเรื่องนิดหน่อย)
และตอนเรานั่งอยู่บนเครื่องบิน เราจะต้องคาด Belt ตลอดนะคะลูก แล้วเวลาเครื่องจะบิน เครื่องบินจะมีเสียงดัง (พูดปุ๊บ อันนี้บังเอิญ - เรือหางยาวแถวบ้านวิ่งผ่านมาพอดีเสียงดังพอกันเลย เลยได้ยกตัวอย่างเสียงดังให้ใกล้ชิดกันไปอีกหน่อยครับ) แล้วเครื่องบินก็จะวิ่งจู๊ดดดดดดดๆๆๆๆ ขึ้นไป on the cloudเลย (สองภาษาอีกจิ๊ดนึง) และถ้าเด็กๆ รู้สึกเจ็บหูเราจะต้องทำการ "อ้าปาก" กับ "กลืนน้ำลาย" ตลอดๆ แล้วจะหาย เจ็บหูนะจ๊ะลูก
...ไหน! พี่เข็มลองทำดูดิ

พูดจบ ก็เห็นพี่เข็มที่นอนฟังอยู่ ก็อ้าปากตามที่ป่าปี๊ทำให้ดู

พี่เข็ม : "...อ้าาาาา ..... หนูไม่เจ็บหูแล้วละป่าปี๊
" <พี่เข็มบอกผลให้ป่าปี๊ทราบ>

ป่าปี๊ : !?!? ^^"
.
.
.

ส่วนวันจริงจะสำเร็จหรือไม่อย่างไรจะนำมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะครับ

ขอบคุณที่ติดตามครับ


๒๓ พฤษภาคม ๕๔...

กลับมาจากทริปเชียงใหม่แล้วครับ มีผลลัพท์มาฝากครับ

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10582822/E10582822.html


ป่าปี๊เอง

ความคิดเห็น