-`๏’-เลิกแพมเพิส ใครว่างานง่าย-`๏’-

 

  วันนี้ปลาเข็ม ๒ ขวบ ๕ เดือนแล้ว..^^ คนเป็นพ่อ เป็นแม่คนนี้ ก็มีประสบการณ์การเลี้ยงลูกมา ๒ ปี ๕ เดือน ด้วยเหมือนกัน ยังมีกิจกรรมที่รออยู่ข้างหน้าอีกมากมาย สำหรับภารกิจสร้างคนให้เป็นคนที่จะอยู่บนโลกนี้ได้... คนปัจจุบันคงมีความสะดวกสบายกับ เจ้าผ้าอ้อมสำเร็จรูป อยู่พอสมควร มันสะดวกชีวิตจริงๆ ผมยังจำได้ตอนปลาเข็มเกิดใหม่ๆ ๓วันแรก ผมกลับมาจากทำงานต้องซักผ้าอ้อมเลอะอึเจ้าปลาเข็มวันละต่ำๆ ๒๐ผืน ทุกวัน โหย..เล่นเอาซำแฮกเลย ได้พบสิ่งแปลกใหม่ด้วยว่า "ทำไมอิ สีเหลืองๆ ถึงซักด้วยน้ำยาซักผ้าเด็กไม่ออก แต่ทำไมถึงใช้สบู่ซันไลท์รุ่นเก่าที่เป็นก้อนๆ แล้วถึงซักออก" แต่หากลองคิดดูแล้ว คนรุ่นปู่รุ่นย่าปลาเข็ม เขาคงมีแต่ผ้าอ้อมเท่านั้นที่จะใช้กัน สำหรับผมเห็นว่าคนสมัยก่อนน่าจะเลิกผ้าอ้อมยากกันอยู่เหมือนกัน จะแตกต่างกันเพียงความสะดวกสบายที่มีจำกัดอยู่บ้าง เคยลองถามผู้ใหญ่เขาก็บอกว่า "ก็ต้องซักผ้าอ้อมอย่างนี้เหมือนกัน" "สมัยก่อนแอร์ก็ไม่มี ต้องนั่งพัดกันทั้งคืน" "เด็กก็ขี้ร้อนเหงื่อท่วมตัว" "ซักผ้าปูที่นอนกันทุกวัน เพราะฉี่รดที่นอนทุกวัน" 


ความคิดในการเลิกแพมเพิสกับปลาเข็มเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ถูกกระทำโดยคุณป้าผู้เลี้ยงที่จะถอดเพิสตอนกลางวันที่ป่าปี๊กับม่ามี๊ไปทำงานกัน สำหรับคุณป่าปี๊ผู้ขี้เกียจหาได้พยายามเป็นฝ่ายเริ่มไม่ เพราะติดสบายไว้ก่อน "สบายยังไง ?!?!" การไม่ต้องกังวลว่าลูกปวดฉี่ ปวดอิ เวลาไปไหนมาไหน ไม่กังวลว่าจะฉี่รดที่นอนเวลานอนหรือปล่าว ไปห้างมองหามุมเปลี่ยนเพิส แค่ตอนจะกลับ นั้นคือความสบายของคุณป่าปี๊ ^^ การไม่รีบเลิกแพมเพิสจึง สร้างสิ่งหนึ่งที่ดูแล้วตลก แต่จริงๆ คือไม่ตลก คือ การที่ปลาเข็ม จะชินกับการยืนฉี่ ยืนอิ นึกภาพตามนะครับ เด็กตัวกระเปี๊ยกยืนนิ่งๆ เขย่งขานิดๆ ข้างนึงและไม่พูดไม่จา ใครไม่รู้ไปโดนตัวจะร้องโวยวาย "เข็ม! กะลัง อิ๊ อยู่" เราคงไม่อยากเห็นภาพเยี่ยงนี้ตอนเข้าโรงเรียนเป็นแน่ เมื่อความจำเป็นในการเลิกแพมเพิสมาถึงเวลาแล้ว ทฤษฎีการเลิกแพมเพิสมาจากสื่อหลายแขนง ..จากญาติผู้ใหญ่, จากคุณแม่ๆ ในชานเรือน จากความรู้สึกส่วนตัว เช่นเคยครับ วิธีที่ทำให้ปลาเข็มเลิกใส่แพมเพิสได้คงไม่ใช่วิธีตายตัวสำหรับลูกๆทุกคนหรือแม้กระทั้ง กับเจ้าปลาทู ผู้เป็นน้องชาย..

 

วิธีการแรกๆ เราฝากความหวังไว้ที่เจ้าตัวน้อยให้บอกเราว่าปวดฉี่นะ แล้วจะพาไปฉี่นะ ^^ วิธีการนี้เหลวเป๊ว ล้มเหลว ช่วงแรกปลาเข็มจะไม่สามารถควบคุมหรือรู้ชะตากำหนดการฉี่ของตัวเองได้ครับ เธอก็จะฉี่รดตัวเอง ไปทั่วแล้วแต่จะประจำการอยู่แถวไหน แต่แน่นอนการที่มีฉี่อุ่นๆ ไหลผ่านขาเรื่อยๆ เป็นธรรมชาติที่จะบอกเตือนปลาเข็มเองในตัว ^^ !?!?! "ทำไมไม่บอกละลูก หนูก็พูดได้แล้วนะ" <ป่าปี๊ม่ามี๊บ่นปลาเข็ม> ปลาเข็ม: "ป่าปี๊! <ทำหน้าเศร้า> ปลาเข็มจาต้องบอกนะปี๊ " ที่เราลองทำดูแล้วเห็นว่าได้ผลคือการนับเวลาครับ การกำหนดเวลาจึงเป็นทางลัดของป่าปี๊ที่จะทำให้เรื่องนี้อยู่ในการควบคุมได้ ทุกๆ เช้า ปลาเข็มจะถูกจับนั่งกระโถนเด็กให้ฉี่ ..บางทีอาจอิ ด้วยแล้วแต่อารมย์จะบริ้วเธอไป และจากนั้นทุกๆ ๒-๓ ชั่วโมงจะคอยถามเขาให้ดู และจะจับนั่งอีกครั้งเมื่อครบกำหนดเวลา พบว่าอย่างน้อยจะฉี่ทุกครั้งไป แต่กิจกรรมนี้ได้ถูกยกระดับความยากให้คุณป่าปี๊และม่ามี๊ได้ ทำต่อคือ "เวลาเข้านอนกลางคืน" อันนี้เป็นยักษ์ตัวใหญ่จริงๆ กฎธรรมชาติจะสั่งให้ป่าปี๊ นอนหลับยาวไม่ได้ยินสิ่งใดในโลกนี้จนเช้าอีกวัน ทำยังไงดีละ ทีนี้ ?!?! 


การจัดกันไปห้องน้ำก่อนนอนเป็นภาคบังคับของการเข้านอนอยู่แล้ว และต้องไม่ลืมมองนาฬิกาด้วยว่ากี่โมง ใช้เกณฑ์ ๓ ชั่วโมงก่อนนะครับ เพราะถ้า ๔ ชั่วโมงอาจพลาด ..โอ้สำหรับ คืนแรกผ่านไปด้วยดี ด้วยการอุ้มเข้มไปฉี่ที่กระโถนที่จัดไว้ แต่ดันตกม้าตายที่คืนที่ ๒ เพราะกะเวลานานขึ้นอีกนิด คือที่ ๔ ชั่วโมง บวกกับง่วงเองด้วย(ลืมตื่น) จึงเรียบร้อย แฉะเปียกไปหนึ่งดวง กลางเตียง คืนที่ ๓ จึงตั้งนาฬิกาปลุกเลย จะได้ตื่นตรงต่อเวลาไม่พลาดอีก ...งานนี้ผ่าน กุญแจสำคัญคือเวลาที่กะไว้ เจ้าปลาเข็มจะโยเยนิดหน่อย แต่ต้องให้กำลังใจกัน ..หอมแก้ม ชมเชย จุ๊บๆ นอนต่อนะลูก  

ยักษ์ตัวใหญ่ถัดมาคือ การพาไปนอกบ้าน เมื่อก่อนไม่ต้องกังวลเพราะมีแพมเพิส ดังนั้นจึงมีปัจจัยหลายหลากที่กำหนดไม่ได้ ถ้าไม่ใส่แพมเพิส เช่น รถติดนานไหม..ปวดฉี่ตอนรถติดจะทำยังไง..ส้วมจะอยู่ไหน ..จะปวดเมื่อไหร่ ..กินเยอะขึ้นแล้วเวลาจะสั้นลงไปอีกเท่าไหร่ โอ้ย ๑๐๘!!! แต่อันที่เรียกรอยยิ้มให้ทุกคนที่พบเห็นคือ "อาการกางเกงเข้าวิน!! ของเด็กน้อย " ปลาเข็มจะเดินยึกยักๆ เป็นเดินโขน และเอามือดึงกางเกงออกจากหว่างขา จากก้นบ่อยครั้ง บางครั้งใครพบเห็นจะช่วยกันถามว่าเป็นอะไรละลูก พอได้คำตอบว่า "กางเกงเข้าวิน" ก็จะยิ้ม สถานะการณ์แรกในชีวิตของปลาเข็ม เมื่อไม่ใส่แพมเพิสออกนอกบ้าน กับป่าปี๊ เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากที่ป่าปี๊ไปเลือกตั้ง(ส.ก)ที่บ้านแถวนวมินทร์ และกำลังกลับจากเยี่ยมปู่กับย่าที่ร้าน แล้วเราทั้งสองแวะไปเจิมห้างใหม่ "ห้างพาราไดซ์" ห้างเสรีอัพเกรดนั้นเองตรงถนนศรีนครินทร์ที่เพิ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นั้น ขณะกำลังทานไอศครีมที่ร้านบูโน่ ตรงชั้น๔ อยู่นั้น ปลาเข็ม เอ่ยขึ้น "ปี๊! เข็มจาปวด...ฉี่" เอาละซิ !? ไอติมก็ยังกินไม่หมด กาแฟ กับเค้กที่ป่าปี๊สั่งไว้ก็กำลังจะมาเสริฟ แถมมากันสองพ่อลูก บวก รถเข็นเด็กอีกหนึ่งคันด้วย ทำไงละ ..คราวนี้ "น้องครับ !! พี่จะพาลูกสาวพี่ไปฉิ่งฉ่องก่อน ฝากตังค์ไว้ก่อนนะ " วิ่งจู้ดๆไปห้องน้ำที่สุดทางเดินกัน "โห แถบไม่ทัน" ขณะอุ้มเจ้าปลาเข็มวิ่งไปห้องน้ำ สังเกตว่า เขาดูสนุกมาก และสั่งให้ปี๊วิ่งเร็วๆ ตลอดเลย แม้ว่าจะฉี่เสร็จแล้วกำลังเดินกลับมาที่โต๊ะก็ขอให้ปี๊ทำวิ่งจู้ดอีก "ปี๊!! เข็มจา..อิ๊" คำนี้พูดขึ้นหลังจากกลับมานั่งได้ไม่นาน !?#$%^ โอ้ คา-ว้าว เลย "...อะไรนะลูก หนูจะอิ๊ เหรอ" "จริงๆ เหรอ" <นั้นๆ มีไม่เชื่อลูก> ปลาเข็ม: หนู-จา-อิ๊!!! <ชัดเจน แถมนั่งยองๆส่งยิ้มให้อีกด้วย> . . "น้องครับ พี่ฝากโต๊ะอีกรอบนะครับ เด๋ว พี่มา พาเจ้าแสบไปอิ๊อีกรอบครับ" <น้องอมยิ้ม> ขณะวิ่งอุ้มเขาพาไปส้วมเป็นการด่วน และกำลังจะถึงห้องน้ำ ...... ปลาเข็มก็พูดว่า "ปี๊ !! วิ่งจู้ดเร็วๆ อีกดิ หนูชอบให้ปี๊วิ่งจู้ดเร็วๆ เลย" . . 

ป่าปี๊: โธ่! ไอ้หมาน้อย ของปี๊ เอ้ย ^^

ความคิดเห็น

  1. ไม่ระบุชื่อ31 สิงหาคม 2553 เวลา 08:28

    ผ่านมาแล้วน้อง ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่เลย เพราะจะปล่อยให้ไปห้องน้ำคนเดียวก็ไม่ได้ ที่แย่กว่าคือไปนั่งกินฟาสต์ฟูดกันสองแม่ลูกอ่ะ ฝากของใครก็ไม่ได้ด้วย อย่าได้ไปเชียวนะ เตือนไว้ก่อนเลย / พี่เอ้เอง

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น