ปล.ภาพสวยภาพนี้ จากน้าอ้นคะ
วันนี้พี่เข็ม ๓ขวบ กับ ๗ เดือน และน้องทูก็ หนึ่งขวบกับ๓เดือน ทั้งสองคนนี้เป็นพี่น้องกันมาปีกว่าแล้ว จากวินาทีแรกที่ได้เห็นกันที่โรงพยาบาล มีบทบาทมากมายที่ป่าปี๊กับม่ามี๊ส่งมอบให้กับคนตัวเล็กทั้ง๒คน ในแต่ละบทบาทตามเหตุการณ์ ซึ่งมักพบรอยยิ้มให้เราได้บ่อยครับ
...ท่านเคยนั่งดูเด็กๆ เขาทะเลาะกันไหมครับ?
ครั้งหนึ่งเวลาที่เจ้าปลาทูแอบนั่งมองพี่เข็มเล่นของเล่น หรือเล่นโทรศัพท์อยู่อาการเขาจะ นิ่งๆ.. จ้องๆ... สังเกตพี่เข็มของเขาตลอดไม่วางตา และเมื่อใดก็ตามที่พี่เข็มเผลอ ไปให้ความสนใจกับเรื่องอื่นๆ หรือวางโทรศัพท์ลง ปลาทูก็จะย่องๆ แล้ว "ฉก" ของเล่นหรือโทรศัพท์ไป แล้วเขาจะวิ่งๆๆๆ ไปหลบที่มุมประจำตัว(comfort zone)ของเขาที่อยู่ข้างๆเตียงทันที จะเรียกเสียงฮามาก เพราะแค่เดินก็ยังไม่ค่อยมั่นเลย แต่พอเวลาต้องวิ่งกลับวิ่ง จู้ดๆๆ ได้
สำหรับเราคงไม่ได้มองเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องใหญ่อะไรครับ กลับรู้สึกว่าเจ้าทูกำลังแสดงนิสัยจากสัญชาตญาณออกมาให้เราเห็น อันไหนสังคมรับไม่ได้เราก็ต้องปรับแก้กันไป ส่วนตัวบางครั้ง ผมนั่งมองเด็กๆเขาเล่นกัน การแสดงสัญชาตญาณบางอย่างก็น่ารัก แสบ และก็น่าตีเหมือนกันครับ แต่ผมมองว่ามันเป็นธรรมะนิดๆ ครับ คือว่าอะไรที่เราคิดว่าควบคุมได้ นั้นแท้จริงแล้วเราไม่เคยมีความสามารถควบคุมได้เลยครับ
มีเรื่องๆหนึ่งอยากเล่าให้ฟังครับ เจ้าปลาทู น้องเล็กประจำบ้านจะโตมากับการได้รับการเอาใจใส่ กลัวว่าจะเจ็บตัวตลอดเวลา จนบางทีผมว่าเจ้าปลาทูก็คงรู้สึกได้ว่าฉันเป็น somebody ซึ่งเห็นได้จากอาการแกล้งร้องไห้ เวลาถูกขัดใจเสมอ
สายๆ วันหยุดที่ผมอยู่บ้าน ผมมักขลุกอยู่กับเด็กๆ ตั้งแต่เขาตื่นนอนครับ เขาจะเล่นทุกสิ่งอย่าง โดยไม่ได้แคร์ กับอะไรทั้งสิ้น ซึ่งป่าปี๊ในฐานะ Life Guard ประจำบ้าน (เพราะคุณม่ามี๊ก็จะเป็นแม่ครัวทำอาหารให้เราไงครับ) ก็คงต้องทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถนะครับ เพราะทั้ง she/he ไม่รู้จักคำว่า "เจ็บ" กันเลย ครั้น เราจะวิ่งไล่โอ๋ลูกเฝ้าติดตลอด เราก็เชื่อว่าเขาน่าจะโตมาเป็นเด็กที่ขาดความมั่นใจในตัวเองอย่างแน่นอน สำนวนที่ใช้เสมอในปัจจุบัน คือ "อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ " ซึ่งถึงกระนั้นก็เถอะครับ ไม่วายเจ็บตัวได้ทุกจังหวะกันเลยทีเดียว
ภายหลังจากหมดมุขเล่นแล้ว (หมายถึงป่าปี๊หมดมุขนะครับ) ป่าปี๊ก็จะงัดมุขเด็ดออกมาใช้ คือ "สระว่ายน้ำ" ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับดีทุกครั้ง เพราะพอเอาสระออกมาเป่า คนพี่ก็จะวิ่งๆ ไปแก้ผ้ามารอท่าก่อนเพื่อน ลืมเจ้าทูที่กำลังวิ่งไปอ้อนคนโน้นคนนี้ให้ถอดเสื้อผ้าให้ด้วย พอน้ำเต็ม Life guard ก็ยังคงต้องทำหน้าที่ต่ออยู่ใกล้ๆ นะครับ เพราะน้ำท่าไม่เข้าใครออกใคร
ในบางครั้งน้องทูเหมือนจะรู้ทั้งข้อจำกัด และข้อได้เปรียบของตัวเองอยู่บ้าง คือเขาจะใช้ข้อได้เปรียบการเป็นน้องเล็กที่จะ(แกล้ง)ร้องไห้เมื่อของที่ตัวเองอยากได้แล้วยังไม่ได้ แต่พี่เข็มเล่นอยู่ หรือในทางกลับกันพี่เข็มก็ร้องไห้(แกล้งซ้อน) เพราะปลาทูฉกของไปแล้ว และยังไม่ได้คืน ...
ป่าปี๊ : "เข็ม ... ลองให้น้องถือไปก่อนลูก เดี๋ยวน้องก็เบื่อแล้ว ไม่เชื่อ ลองมาเล่นอันนี้กับป่าปี๊ดูซิ สนุกกว่า แล้วเดี๋ยวน้องก็จะ เอาของเล่นมาคืนพี่เข็มเอง..แหละ เชื่อป่าปี๊ดิ ^^
ตรงนี้เพราะเราเชื่อว่า คนที่เข้าใจเยอะสุด คือพี่เข็มครับ ซึ่งเราต้องแคร์ความรู้สึกเขาก่อน เขารู้เรื่องที่สุดแล้ว ผมกับแม่ปลาไม่เลือกใช้วิธี "เออ.นะ ให้น้องไป
หลายท่านอ่านมาถึงตรงนี้ อาจกำลังนึกว่า ไม่นึกถึงหัวจิดหัวใจปลาทูบ้างเลยเหรอ
พอดีคุณพ่อตาผม หรืออาโน๊ะ(คุณตาในภาษามอญ) ท่านจะได้ช่วยเราดูแลเจ้าปลาทูในช่วงเช้าๆ ก่อนคุณป้าซึ่งเป็นผู้เลี้ยงมือหนึ่งมารับช่วง ท่านจึงสนิทกับหลานๆมาก ท่านจะมีมุขในการเล่นกันหลานๆ ทำให้หลานยิ้มได้ตลอด ไม่ว่าเวลาที่หลานจะโยเยร้องไห้ก็ตาม และหนึ่งในมุขที่ผมจำท่านมาใช้ คือมุข "จิ้งจก" ท่านจะชี้ชวนเจ้าปลาทูคุย ชี้ดูจิ้งจกที่ฝาบ้านเราตลอดตลอดทั้งมีจริงและไม่มีจริง
มุขนี้จะเลือกใช้เวลาที่เจ้าปลาทูเดินหกล้ม หรือหาเรื่องเจ็บตัวต่างๆ ให้กับตัวเองแล้วกำลังร้องไห้ ซึ่งแปลกมากครับ เจ้าทู ก็จะถูกเบี่ยงความสนใจจากที่กำลังเจ็บอยู่ไปออกเสียงตามอาโน๊ะทันที
ปลาทู : " จี้..โจะ! " (พูดตามอาโน๊ะ พร้อมหยุดร้อง)
ด้วยมุขนี้ "จิ้งจก" เลยกลายเป็นคำพูดแรกๆ ที่ปลาทูสามารถพูดได้ชัดเจน...ไปซะงั้นครับ!

ตอนเช้าก่อนพี่เข็มไปโรงเรียน จะจุ๊บน้องทูทุกวัน
วีรกรรมของสองพี่น้องคู่นี้ยังไม่จบนะครับ ในเวลาที่เขาร่วมมือกันเราก็จะเห็นความร่วมมือ การเข้าพวกกันซะจนน่าหยิก พี่เข็มจะเป็นแกนนำให้กับน้องในการเล่นพิเรนทร์ต่างๆ คำนี้จริงๆแล้วป่าปี๊ไม่อยากใช้เท่าไหร่ครับ แต่มันเกิดจากการที่พี่เข็มเล่นผาดโผน เสี่ยงหาเรื่องเจ็บตัวในตอนเด็กๆ แล้ว เรียกให้ป่าปี๊ม่ามี๊ดู เราก็จะบอกเขาว่า
"พี่เข็ม เล่นพิเรนทร์ จริงๆ ลูกนี่
"

ซึ่งจริงๆ แล้วป่าปี๊ม่ามี๊ต้องการสื่อสารให้เขารู้ว่ามันอันตรายเท่านั้นเอง แต่กลับเป็นว่า ตั้งแต่นั้นมาเวลาเขาเล่นอะไรผาดโผน เสี่ยงต่อการเจ็บตัว เช่น พี่เข็มมักชอบจะเอาเก้าอี้กับโต๊ะหลายๆ ตัวมาต่อกันเป็นสะพานไปถึงสไลเดอร์ แล้วเขาเดินค่อยๆข้ามโต๊ะแต่ละตัวไปจนถึงสไลเดอร์ แล้วสไลตัวเองลงมา... เขาจะบอกป่าปี๊ กับม่ามี๊ว่า
ปลาเข็ม : "ป่าปี๊ !! เข็มเล่นพิเรนทร์สำเร็จด้วยละ ป่าปี๊ ม่ามี๊"

ป่าปี๊ : ..เอาเข้าไป๊คุณลูก (^.^)
"พี่เข็ม เล่นพิเรนทร์ จริงๆ ลูกนี่
ซึ่งจริงๆ แล้วป่าปี๊ม่ามี๊ต้องการสื่อสารให้เขารู้ว่ามันอันตรายเท่านั้นเอง แต่กลับเป็นว่า ตั้งแต่นั้นมาเวลาเขาเล่นอะไรผาดโผน เสี่ยงต่อการเจ็บตัว เช่น พี่เข็มมักชอบจะเอาเก้าอี้กับโต๊ะหลายๆ ตัวมาต่อกันเป็นสะพานไปถึงสไลเดอร์ แล้วเขาเดินค่อยๆข้ามโต๊ะแต่ละตัวไปจนถึงสไลเดอร์ แล้วสไลตัวเองลงมา... เขาจะบอกป่าปี๊ กับม่ามี๊ว่า
ปลาเข็ม : "ป่าปี๊ !! เข็มเล่นพิเรนทร์สำเร็จด้วยละ ป่าปี๊ ม่ามี๊"
ป่าปี๊ : ..เอาเข้าไป๊คุณลูก (^.^)

เหตุการณ์ตะลุมบอนม่ามี๊โดยหัวโจก..พี่เข็ม(ป่าปี๊บันทึกภาพ/รายงาน/จบข่าว)
ขอบคุณสำหรับหลายท่านที่ติดตามความเติบโตของลูกปลาทั้งสองนะครับ ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น